เมี่ยงคำโบราณ ร้านเดชนาฬิกาตลาดร้อยปีสามชุก จากอดีตนักบอลดาวรุ่งเยาวชนโอสถสภา หันกลับมุ่งมั่นสืบทอดสูตรน้ำเคี่ยวรสเด็ดจากคุณแม่

เมี่ยงคำโบราณ ร้านเดชนาฬิกาตลาดร้อยปีสามชุก จากอดีตนักบอลดาวรุ่งเยาวชนโอสถสภา หันกลับมุ่งมั่นสืบทอดสูตรน้ำเคี่ยวรสเด็ดจากคุณแม่

ตลาดร้อยปีสามชุก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ตลาดเก่าแก่อีกหนึ่งที่ ที่ผู้คนนักท่องเที่ยว นักชิม นักช้อป นิยมแวะไปเดินใช้บริการอยู่เป็นประจำ เพราะไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก อีกทั้งยังมีสินค้า ผลิตภัณฑ์พื้นเมือง และอาหาร ขนมหวานสูตรโบราณดั้งเดิมที่ชาวบ้านอนุรักษ์ไว้หลากหลายชนิด
เมี่ยงคำโบราณ สูตรเด็ด ของร้าน เดชนาฬิกา ของดีโบราณอีกหนึ่งอย่างในตลาดร้อยปีสามชุก พิกัดหาง่ายมากเพราะร้านอยู่ซอยแรกตรงข้ามกับด้านหลังอำเภอ ขนาบข้างด้านหน้าด้วยที่จอดรถของอำเภอ สะดวกสบาย จอดรถเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงร้าน ซึ่งเมี่ยงคำสูตรโบราณของร้านเดชนาฬิกานั้นขายมานานตั้งแต่รุ่นคุณแม่หนู จนมาเปิดขายเป็นล่ำเป็นสันอยู่หน้าร้านเดชนาฬิกาตั้งแต่ปี 2550 รวม15 ปีมาแล้ว

 ซึ่งมีคุณสุธีร์ อินทนะ ลูกชายที่เกิดและเติบโตในตลาดร้อยปีสามชุกแห่งนี้เป็นผู้ดูแลกิจการร้านเดชนาฬิกาต่อจากพ่อที่เสียไป เป็นคนช่วยขาย และที่สำคัญ คุณสุธีร์ อินทนะ นั้นมีดีกรีมากมายในตำแหน่งการเล่นฟุตบอลระดับเยาวชนของสโมสรในประเทศไทย


คุณสุธีร์ อินทนะ หรือ คุณหนึ่ง อายุ 41 ปี เจ้าของร้านเดชนาฬิกา เล่าว่า ร้านนาฬิกาเดชนาฬิกา แห่งนี้เกิดมาอยู่คู่กับตลาดร้อยปีสามชุกตั้งแต่รุ่นก๋งที่ริเริ่มทำอาชีพรับซ่อมนาฬิกา ตนเองเป็นรุ่นที่สามที่รับช่วงต่อจากพ่อ ซึ่งพ่อสืบทอดต่อจากก๋ง โดยก่อนที่พ่อตนเองจะเสียได้ฝากฝังให้ตนเองดูแลรับช่วงต่อเพราะเป็นร้านที่พ่อเปิดมาเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มๆ

ซึ่งปกติตนเองจะรับซ่อมนาฬิกาทั้งนาฬิกาโบราณ และ นาฬิการุ่นใหม่ทุกยี่ห้อ เพราะได้รับมรดกทางช่างจากพ่อที่สอนให้ตั้งแต่เด็กๆ แม้จะเป็นอาชีพรายได้ที่ไม่มากนักแต่ก็พอเลี้ยงตัวเองได้ เมี่ยงคำโบราณ ที่ลูกค้ารู้จักกันในนาม ร้านเดชนาฬิกาตลาดร้อยปีสามชุก เพราะแม่ของตนเป็นคนคิดค้นสูตรขายมาตั้งแต่ยังสาวแต่มาเริ่มขายที่หน้าร้านก็ประมาณ 15 ปี

เมื่อเสียพ่อไป ความฝันทางการกีฬาฟุตบอลก็ต้องจบลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะต้องสืบทอดเจตนารมของครอบครัวที่จะรักษาสูตรลับ สูตรเด็ด เมี่ยงคำและร้านนาฬิกาเอาไว้
นอกจากขายหน้าร้านเดชนาฬิกาแล้ว ตนเองยังใช้เทคโนโลยีให้ทันยุคสมัย โดยทำการขายออนไลน์ผ่านทางเฟซบุ้ค ชื่อหนึ่ง เมี่ยงคำ ก็มีลูกค้าเก่าแก่ติดตามกันมาสั่งและก็มีลูกค้าใหม่จากการรีวิวในเฟซบุ้คสั่งกันพอสมควร ในราคาห่อละ 35 บาท 3 ห่อ 100 ปัจจุบันคนจะติดปากเรียกตนเองว่า หนึ่ง เมี่ยงคำ กลายเป็นฉายาประจำคนท้องถิ่นไปแล้ว


สูตรเด็ดเมี่ยงคำของแม่ตนเองนั้น อยู่ที่ความสด สะอาดของส่วนผสมแทบทุกชนิดทำใหม่ทุกวันไม่เก็บค้างคืน เช่นมะพร้าวคั่วจะคั่วใหม่ทุกวันจะไม่เหม็นหืนและที่สำคัญมะพร้าวคั่วของเราจะกรอบอร่อยไม่เหนียวไม่ติดฟัน ใบชะพลูต้องคัดสันอย่างดีให้ใบเท่ากันเรียงสวยงาม มีครั้งหนึ่งคนจะให้เก็บใบชะพลูที่บ้านเขาเอาไปทำขายแต่แม่ปฏิเสธจะใช้ใบชะพลูของที่ประจำเท่านั้น และสุดท้าย การเคี่ยวน้ำราดต้องใจเย็นค่อยๆเคี่ยวให้น้ำตาลเหนียวเม็ดน้ำตาลแตกตัวและทำสดใหม่ทุกๆวัน ทำให้รสชาติคงที่และเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาลูกค้าที่มาซื้อ มาแล้วก็มาอีกหรือบางครั้งก็สั่งทางเฟซให้ส่งไปให้


อีกทั้งความมีเพื่อนเยอะเพราะเป็นนักกีฬาเยาวชนของคุณสุธีร์ ก็มีเพื่อนๆมาให้กำลังใจช่วยสนับสนุนกันอยู่ไม่ขาดสาย สมัยวัยเด็กของคุณสุธีร์ อินทนะ หรือ คุณหนึ่ง นั้นมีความชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ด้วยตนเองเป็นคนถนัดซ้ายจึงเริ่มฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่อง และนักบอลที่เก่งๆขาซ้ายนั้นมีไม่เยอะมาก คุณสุธีร์เริ่มฝึกหนักสามารถพัฒนาฝีมือมาได้ในระดับที่ว่า ได้ร่วมทีมเยาวชน u-18 สโมสรโอสถสภา / เยาวชน u-18 ธำรงไทยสโมสร ถึงสองทัวนาเมนท์ ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ด้วยโควตานักกีฬา และเป็นแบคซ้ายประจำโรงเรียนบดินทรเดชาถึงสามปี ปี2539ก่อนถูกเชิญไปซ้อมเพื่อดูฝีแข้งกับสโมสรหารอากาศ ที่สนามนายเรืออากาศ โดยมีคุณ ปิยะพงศ์ ผิวอ่อน มาลงคุมการซ้อมด้วยตัวเอง และเคยเกือบได้เซนต์สัญญากับสโมสรฟุตบอลทการอากาศ u-18 แต่ช่วงนั้นแต่เพราะว่าถ้าเซ็นสัญญาแล้ว จะเล่นที่ไหนไม่ได้อีก ก็เลยตัดสินใจหยุดการไปซ้อมแค่นั้น หลังจากจบมัธยมศึกษาปีที่6 ที่โรงเรียนบดินทรเดชา ก็มีผู้ใหญ่ในวงการฟุตบอลหลายท่านชวนไปร่วมงานหรือ กิจกรรม แต่คุณสุธีร์ ต้องกลับบ้านเกิดที่ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เพื่อช่วยแม่ และ พ่อทำการค้าขายเพราะในขณะนั้น พ่อเดช อินทนะ เริ่มร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง คุณสุธีร์ จึงต้องไปช่วยและได้รับการถ่ายทอดวิชาฝึกฝนความรู้ทั้งสูตรเมี่ยงคำโบราณ และ การซ่อมนาฬิกา จนปัจจุบัน
ติดต่อ ร้านเดชนาฬิกาตลาดร้อยปีสามชุก และ ติดต่อเมี่ยงคำโบราณร้านเดชนาฬิกาตลาดร้อยปีสามชุก
โทร 062-791-2253 Facebook : หนึ่ง เมี่ยงคำ

Share: