อ.สุภัค หมื่นนิกร ทายาทรุ่น2 “สยามสะเต๊ค” นำทัพปัง แฟรนไชส์ 2 ปี 20 สาขา

อ.สุภัค หมื่นนิกร ทายาทรุ่น2 “สยามสะเต๊ค” นำทัพปัง แฟรนไชส์ 2 ปี 20 สาขา

อ.สุภัค หมื่นนิกร ทายาทรุ่น2 นำทัพ
สยามสะเต๊ค แฮมเบอร์เกอร์เจ้าแรกในไทย มีสาขามากกว่า 20 สาขาทั่วไทย ขยายสาขาแฟรนไชส์ มีทั้งมหาวิทยาลัย สำนักงานออฟฟิศ โรงพยาบาล
ปั้มน้ำมัน เมนูซิกเนเจอร์ สยามเบอร์เกอร์ บะหมี่ แซนด์วิชอบร้อน ไส้กรอกเยอรมัน สยามสะเต๊กเป็น แบรนด์เก่าแก่อายุยาวนานกว่า 50 ปี การันตีทีมบริหารมากประสบการณ์ โดยมีสาขาล่าสุดที่จังหวัดสระบุรี
โดยอ.สุภัค หมื่นนิกร ทายาทรุ่นที่2 Siam Steak ปัจจุบันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจร้านอาหาร, Street Food และ แฟรนไชส์ มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เปิดขายแฟรนไชส์สยามสะเต๊คมาได้ 2 ปี ผลการตอบรับในแบรนด์แฟรนไชส์สยามสะเต๊คดีมาก ประสบความสำเร็จในหลายๆ ด้าน

อย่างแรกคือมีจำนวนสาขาทั้งหมด 20 กว่าสาขา สยามสะเต๊คแม้เป็นแฟรนไชส์อาหารมื้ออิ่ม สยามสะเต๊คได้เซ็นสัญญากับปั้มบางจากในรูปแบบ Sub-Area Franchise เพื่อขยายสาขาในปั้มบางจากทั่วประเทศ

ทำให้สยามสะเต๊คมีโอกาสขยายสาขาได้มากขึ้น โดยร้านที่เปิดในปั้มบางจากใช้ชื่อว่า “สยามเอ็กตร้า”
อ.สุภัค กล่าวว่า สาเหตุทำให้คนสนใจเปิดแฟรนไชส์สยามสะเต๊คในรูปแบบแบบ Shop เพราะอยากให้ลูกค้านั่งในร้านได้นานขึ้น มีเวลาอยู่ในร้านได้ยาวนาน สามารถเพิ่มยอดขายให้กับร้านได้ดีดว่าร้านแบบคีออส ไม่ว่าวันไหนฝนจะตก หรือแดดจะออกก็ขายได้ ประกอบกับร้านสาขาแบบ Shop ได้เพิ่มเมนูพิเศษ “สเต็ก” เป็นทางเลือกให้ลูกค้าด้วย
“เท่าที่ถามแฟรนไชส์ซีเขาสนใจลงทุนแบบ Shop มากกว่าคีออส แม้ใช้เงินลงทุนมากกว่า แต่ใช้เวลาในการคืนทุนเท่ากับร้านแบบคีออส ทำให้การขยายแฟรนไชส์แบบ Shop ของสยามสะเต๊คได้ผลดีขึ้น” อ.สุภัค กล่าว
กรณีสาขาล่าสุดเปิดที่สระบุรี แฟรนไชส์ซีรู้สึกแฮปปี้ เพราะยอดขายในการนั่งทานในร้านสูงกว่าคีออสหนึ่งเท่าตัว เมนูที่ขายดี คือ สเต็ก คิดเป็นร้อยละ 30 ของเมนูทั้งหมด และอีกหนึ่งเมนูขายดี คือ มิลล์ ซอฟเสิร์ฟ เรียกลูกค้าเข้าในร้านได้มาก โดยยอดขายวันเสาร์-อาทิตย์ตกอยู่ที่ประมาณ 3-4 หมื่นบาทต่อวัน วันธรรมดาวันละหมื่นกว่าบาท
สำหรับงบลงทุนแฟรนไชส์สยามสะเต๊ค รูปแบบคีออส ใช้พื้นที่ 3×2.5 เมตร ใช้เงินลงทุน 4.5-5.5 แสนบาท ระยะเวลาคืนทุน 1 ปีครึ่ง ส่วนร้านแบบ Shop ใช้พื้นที่ 12 – 80 ตารางเมตร ใช้เงินลงทุน 8 แสน – 2.5 ล้านบาท ซึ่งงบการลงทุนขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ ความพร้อมของห้องว่าต้องมีการปรับปรุงใหม่หรือไม่
โดยในปี 2566 สยามสะเต๊คได้ลงทุนทำร้านต้นแบบใหม่ Shop เพื่อขยายสาขาในมหาวิทยาลัยขนาดพื้นที่ 60 ตารางเมตร เปิดสาขาแรกไปแล้วที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ถือเป็นโมเดลต้นแบบใหม่ในการขยายสาขาทำเลมหาวิทยาลัย  สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์สยามสะเต๊ค บริษัทพร้อมเดินหน้าขยายสาขาแฟรนไชส์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสาขาในรูปแบบ Shop หลังจากได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก เพิ่มเมนูอาหารให้มีความหลากหลายรองรับความต้องการของลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการในร้าน รวมถึงเพิ่มยอดขายในส่วนทางเดลิเวอรี่ให้สูงขึ้น
อ.สุภัค แนะนำคนที่อยากประสบความสำเร็จด้วยการซื้อแฟรนไชส์ว่า ถ้าผู้ซื้อแฟรนไชส์อยากประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ ต้องมีเวลาในการบริหารธุรกิจจริงๆ มีความสามารถในการสร้างทีมงานที่เข็มแข็ง รวมถึงต้องหมั่นทำการตลาดออนไลน์ในบริเวณพื้นที่ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเฟชบุ๊คสาขา โพสต์ภาพสาขาและเมนูให้ลูกค้าในพื้นที่ได้รู้จัก“แฟรนไชส์ซีของแฟรนไชส์สยามสะเต๊คที่ประสบความสำเร็จ

ส่วนใหญ่มีทักษะในเรื่องของการสร้างทีมงาน มีอัตราการเข้าออกของพนักงานน้อย จำนวนลูกค้าเดินผ่านหน้าร้านค่อนข้างเยอะ ทำการตลาดออนไลน์ในพื้นที่ มีเวลาในการบริหารจัดการร้าน ไม่ต้องทั้งวัน อย่างน้อยๆ เข้าร้านวันละชั่วโมง ดู POS เก็บยอดขาย พูดคุยกับพนักงาน”
ใครสายนี้ก็ตามไปฟินกับเมนูที่หลากหลาย ของ “สยามสะเต๊ค” มีให้ไปร่วม20สาขา ใครใกล้ที่ไหนก็จัดกันเลยนะคะ

ข่าวโดย.วินิจ ผู้สื่อข่าวกิตติมศักดิ์

Loading

Share: